รูปแบบการสักคิ้ว มีอยู่ 2 ประเภท นั่นก็คือแบบ ดั้งเดิมที่ใช้เครื่องสักและยิงสีซ้ำๆ จนเป็นรูปคิ้วทึบๆ อย่างที่รุ่นคุณแม่เราทำกัน หากสีไม่ดีก็อาจมีสีเขียวๆ แซมมาด้วย ข้อดีคือมีความติดทนค่อนข้างถาวร แต่ในทางกลับกันก็คือเส้นคิ้วหาย ดูไม่เป็นธรรมชาติ คล้ายจะเป็นสติ๊กเกอร์ติดบนคิ้วซะมากกว่า ส่วนแบบลายเส้นปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก มีการพัฒนาเครื่องมือขึ้นมาจนกลายเป็นปากกาที่ซ่อนด้วยปลายเข็มที่เรียงกันเป็นแนวระนาบ (เรียกกันว่าใบมีด) การทำงานจะถูกควบคุมด้วยมือของช่างที่ชำนาญ ทำให้คิ้วถูกวาดทีละเส้น ดูละเอียด นุ่มนวล และเป็นธรรมชาติกว่า จึงกลายเป็นที่มาของคำว่าสักคิ้วสามมิติยอดนิยม การสไลด์คิ้ว เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะสักคิ้ว เพราะเป็นเพียงการเพ้นท์เท่านั้น โดยมีเครื่องมือที่ใช้เพ้นท์เฉพาะ เพียงเท่านี้ก็ได้คิ้วสวย ไม่ทิ้งร่องรอยการสัก และดูเป็นคิ้วที่เขียนออกมาได้เป็นธรรมชาติ รวมถึงไม่เจ็บเหมือนการสักอีกด้วย
สำหรับข้อควรระวัง ก่อนทำการสักคิ้ว ดังนี้
ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสวยตามคลินิกความงามหรือสถาบันเสริมความงามต่างๆ ทุกอย่างต้องมีข้อห้ามหรือข้อควรระวังการสักคิ้วก็เช่นกันข้อควรระวังสำหรับผู้ที่ไม่ควร เข้ารับการสักคิ้วมีดังนี้
– ผู้ที่แพ้สีแพ้แอลกอฮอล์
– ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
– ผู้ที่ทําศัลยกรรมระหว่างช่วงตาหรือจมูกควรเว้นการสักคิ้วประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี
– ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง หรือมะเร็งผิวหนัง
– ระหว่างมีประจำเดือนการสกัดทำให้เกิดอาการผื่นคันหรือแดงหลังจากการสักมากกว่าปกติ
ดังนั้นช่างสักคิ้วจะต้องมีการ สอบถามประวัติของผู้ที่เข้ารับบริการทุกครั้งเพื่อเป็นการป้องกัน และรู้ถึงข้อห้ามและข้อควรระวังในการสักคิ้วเพราะไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังได้
การสักคิ้วก็มีข้อคารระวังและข้อเสียเช่นกัน แต่หากได้รับการสักกับช่างที่มีฝีมือ รุ้เทคนิค ข้อห้ามที่ควรระวังต่างๆ ก้ไม่ต้องแต่การสักคิ้วเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนในยุคนี้นิยมกันมากและ นอกจากการสักคิ้วแล้ว มีสถาบันที่เปิดสอนสักคิ้วสำหรับคนที่สนใจเรียนเพื่อทำงานเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักค่ะ